ไม่พบแพ็คเกจทัวร์
ลองตัวเลือกใหม่ หรือค้นหาจากหน้ารวมแพ็คเกจทัวร์
ปกติเวลาเรานึกถึงการไปเที่ยวยุโรปคนส่วนมากมักคิดแค่ประเทศดัง ๆ ประเทศใหญ่ ๆ ทว่าจริง ๆ แล้วทางยุโรปกลางยังมีอีกหลายประเภทน่าสนใจ ควรค่ากับการไปสัมผัสความพิเศษที่หาได้ยากจากประเทศดัง ๆ อีกมาก ทัวร์ออสเตรีย คืออีกคำตอบของคนที่อยากไปสัมผัสกับชีวิตของชาวยุโรปกลางกว่าเป็นอย่างไร บ้านเมืองของเขาน่าสนใจมากแค่ไหน ว่าแล้วอย่ารอช้ามาสัมผัสกับ ทัวร์ออสเตรีย ไปด้วยกันเลยดีกว่า
สาธารณรัฐออสเตรีย เป็นเพียงไม่กี่ประเทศในทวีปยุโรปที่ไร้ทางออกทะเลแต่ถือว่าเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจมาก อดีตกาลเชื่อกันว่าพื้นที่แห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ตั้งแต่ยุคหินเก่า พอในช่วงยุคหินใหม่ที่นี่คือแหล่งเหมืองเกลือชั้นดี ช่วงศตวรรษที่ 8 ที่นี่มีผู้คนอพยพมาอาศัยอยู่จำนวนมากทั้งชาวสลาฟ, ชาวเยอรมนี กระทั่งหมดศตวรรษที่ 8 ชาร์เลอมาญได้มีการสร้างเขตแดนขึ้นระหว่างแม่น้ำดราวา แรบและอินส์ ลักษณะคือป้อมปราการเอาไว้ต่อสู้กับศัตรูผู้หวังเข้ามารุกรานซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเอวาร์ กระทั่งชาวโรมันที่เคยอาศัยอยู่นี้ได้อพยพย้ายถิ่นฐานทำให้มีนักบวชชาวสกอตและไอริชเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ พอเข้าสู่ ค.ศ. 976 กลุ่มคนบาวาเรียนเข้ามาปกครองพื้นที่ของออสเตรีย มีราชวงศ์บาเบนเบิร์กขึ้นครอง ทว่าเมื่อราชวงศ์หมดอำนาจช่วงกลางศตวรรษที่ 13 ราชวงศ์ฮับส์บูร์กเข้ามายึดครองพื้นที่แทนพร้อมขยายอาณาจักรไปจนถึงสเปน ต่อมาได้มีการแตกเป็นสายออสเตรียกับสเปน กระนั้นราชวงศ์นี้ยังมีความแข็งแกร่งมากพอในการรวมเอาพื้นที่ฮังการีกับโบฮิเมียเข้ามาอยู่ในอาณาจักร
ช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 ชาวออสเตรียต้องสู้รบกับชาวออตโตมัน พวกเขาเอาชนะและขยายพื้นที่ปกครองเพิ่มขึ้นจนก้าวเป็นประเทศขนาดใหญ่ของยุโรป อย่างไรก็ตามท้ายศตวรรษที่ 18 มีการปฏิรูปการปกครองและการบริหารของรัฐพร้อมเกิดสงครามนโปเลียนจนทำให้สถานการณ์ของประเทศแย่ลง ออสเตรียกลายเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีใครสนใจจนถึงช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายสัมพันธมิตรมีการช่วยเหลือให้ประเทศแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง กลายเป็นประเทศสาธารณรัฐเต็มตัวแต่ก็ยังคงถูกยึดครองจากสหรัฐฯ, อังกฤษ และสหภาพโซเวียต กระทั่ง ค.ศ.1955 มีการลงนามสนธิสัญญาและรัฐบาลออกกฎหมายให้ออสเตรียคือประเทศเป็นกลางถาวร ปี ค.ศ. 1995 ออสเตรียได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรปมากระทั่งทุกวันนี้
วัฒนธรรมของชาวออสเตรียคนที่นี่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ส่วนที่เหลือนับถือนิกายโปรแตสแตนท์, นับถือศาสนาอิสลาม และอื่น ๆ พื้นฐานการใช้ชีวิตจึงไม่ต่างกับชาวยุโรปทั่วไปมากนัก ภาษาราชการที่นี่หลัก ๆ แล้วจะใช้ภาษาเยอรมัน มีบางพื้นที่ใช้ภาษาสโลเวเนีย, ฮังการี และภาษาท้องถิ่นอื่น ๆ จำนวนประชากรของที่นี่มีราว 8 ล้านคน
ส่วนการใช้งานมือถือและอินเตอร์เน็ตสำหรับคนที่จะเดินทางไป ทัวร์ออสเตรีย สามารถเปิดโรมมิ่งจากเมืองไทยเพื่อใช้งานได้เลยหรือจะซื้อพ็อกเก็ตไวไฟไปใช้ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ กระนั้นตามโรงแรมที่พักต่าง ๆ ก็มีอินเตอร์เน็ตฟรีไว้ให้บริการ
สำหรับใครที่อยากไป ทัวร์ออสเตรีย พร้อม ๆ กับที่ประเทศเขามีเทศกาลน่าสนใจมาดูกันว่าควรไปช่วงไหนดี
สำหรับเวลาของประเทศออสเตรียหากเป็นช่วงฤดูร้อนจะช้ากว่าบ้านเราราว 5 ชั่วโมง ฤดูหนาวช้ากว่าบ้านเรา 6 ชั่วโมง การเดินทางจากเมืองไทยไปออสเตรียสามารถเดินทางได้ทั้งเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินเปลี่ยนเครื่อง ถ้าบินตรงจะใช้เวลาราว 11 ชั่วโมงครึ่ง ด้านการเดินทางภายในประเทศส่วนมากจะใช้ระบบรางทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟทั่วไป
ต้องบอกว่าสภาพอากาศของประเทศแห่งนี้ต่างกันจากระดับความสูงของพื้นที่รวมถึงยังได้รับอิทธิพลจากมหาสมุทรแอตแลนติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับพื้นที่ภาคพื้นยุโรปทำให้แม้ฤดูกาลเดียวกันแต่อุณหภูมิอาจต่างกันได้ โดยฤดูกาลของออสเตรียแบ่งออกเป็น
ด้วยความที่ประเทศนี้มีขนาดไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก หากมีโอกาสได้ไป ทัวร์ออสเตรีย ก็ควรเลือกเดินทางไปในทุก ๆ เมืองหลักที่จะบอกต่อไปนี้
ทัวร์ออสเตรีย - กรุงเวียนนา (Vienna)
เมืองหลวงของประเทศ เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุด ถือเป็นเมืองแห่งความเจริญที่เราจะได้พบกับความทันสมัยผสมผสานกับความเป็นเมืองยุโรปเก่าอย่างเข้ากันสุด ๆ ใครนิยมในการเดินช็อปปิ้งตามย่านหรือห้างต่าง ๆ แวะมาที่นี่อย่าพลาดเป็นอันขาด ถือว่าเป็นเมืองหลักที่ใคร ๆ มา ทัวร์ออสเตรีย ก็ต้องมาสัมผัสกันทั้งนั้น
ทัวร์ออสเตรีย - ซาลซ์บูร์ก (Salzburg)
มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ที่นี่บ้านเกิดของโมสาร์ทศิลปินระดับโลก สถาปัตยกรรมต่าง ๆ จะเป็นสไตล์บาโรก เป็นเมืองแห่งศิลปะที่รวบรวมศิลปินชื่อดังเอาไว้มากมาย ฝั่งหนึ่งของเมืองตั้งอยู่ติดแม่น้ำซัลซักค์ แม่น้ำแห่งนี้ไหลผ่านเทือกเขาแอลป์ส่งผลให้บรรยากาศงดงามเกินบรรยาย
ทัวร์ออสเตรีย - บูร์เกนลันด์ (Burgenland)
เมืองแห่งนี้มีทะเลาสาบขนาดใหญ่สุดของประเทศชื่อ นอยซิดเลอร์ แม้ประชากรที่นี่จะน้อยสุดแต่ให้ความสงบ ร่มรื่น แถมบรรยากาศธรรมชาติมาก ใครนิยมความเรียบง่ายแนะนำเมืองแห่งนี้เลย
ทัวร์ออสเตรีย - ลินซ์ (Linz)
ที่นี่ได้รับฉายา “เมืองแห่งฮิตเลอร์” เมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป มีเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตผู้นำนาซีให้ได้ศึกษาเยอะมาก ส่วนสภาพบ้านเมืองก็ออกสไตล์ยุโรปเก่าผสมกับความทันสมัยถือว่าเป็นอีกเมืองที่ใครชอบประวัติศาสตร์ห้ามพลาด
พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace)
พระราชวังขนาดใหญ่มีจำนวนห้องกว่า 1,441 ห้อง ภายในมีผลงานศิลปะถูกรวบรวมเอาไว้จำนวนมาก ด้านหน้ามีอุทยานอันสวยงามไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เป็นมรดกโลกของประเทศใครผ่านมาเวียนนาก็ต้องมาแวะที่นี่
ถนน Grossglockner Alpine
ความพิเศษของถนนแห่งนี้คือเป็นถนนที่มีความยาวตั้งแต่พื้นไปจนถึงยอดเขา มีลักษณะคดเคี้ยว แวะพักจุดชมวิว Kaiser Franz Josefs Hohe เพื่อถ่ายรูปวิวสวย ๆแล้วพาขึ้นไปจนมองเห็นเขา Grossglockner ภูเขาสูงสุดของประเทศ
พระราชวังประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum หรือ Museum of Art History)
เป็นสถานที่เก็บสะสมงานศิลปะราชวงศ์ฮอฟบวร์ก อยู่บริเวณจัตุรัสมาเรียเทเรและริงชตราส เวียนนา ใครมาที่นี่สามารถเข้าชมได้ทุกวัน รับรองสวยงาม ประทับใจจนละสายตาไม่ได้เลยจริง ๆ
หมู่บ้านซีเฟลด์ (Seefeld, Tyrol)
ใครมาช่วงฤดูหนาวแล้วชอบความผาดโผนขอแนะนำให้มายังหมู่บ้านนี้เลย ตั้งอยู่ที่เมืองทีโรล ที่นี่คือเมืองแห่งกีฬาฤดูหนาวของแท้ทั้งเล่นสกี, ปีนเขา หรือจะเดินชมความงดงามของธรรมชาติก็ไม่ใช่ปัญหา มีโบสถ์ชื่อ Seekirchi ตั้งอยู่กลางทะเลสาบให้ได้ชื่นชมด้วย
ปราสาทโฮเฮน (Festung Hohensalzburg)
บางคนก็เรียก ปราสาทซัลบวร์ก ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ยอดเขาเฟสตุงบวร์ก ได้รับการยกให้เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์และยิ่งใหญ่สุด ๆ มองเห็นป้อมปราการขนาดยักษ์อันเลอค่า ใครผ่านไปเมืองซัลบวร์กยังไงก็ต้องแวะให้ได้
ทะเลสาบนอยซิดเลอร์ (Neusiedler See)
ทะเลสาบหญ้าสเต็ปขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปกลาง คำว่า หญ้าสเต็ปหมายถึงบริเวณทะเลสาบโอบล้อมด้วยพงหญ้าสีทองกับพงหญ้าน้ำจำนวนมหาศาล ด้านนอกมีไร่องุ่น พบวิถีชีวิตการเลี้ยงสัตว์ของคนที่นี่ ใครชอบความคลาสสิกแบบชนบทต้องไม่พลาด
จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าอาหารสำหรับคนไป ทัวร์ออสเตรีย อาจไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมากเนื่องจากประเทศนี้ก็ทานอาหารเหมือนคนยุโรปทั่ว ๆ ไป กระนั้นก็ยังมีอาหารบางอย่างถ้าไป ทัวร์ออสเตรีย แล้วควรค่าในการลองทานสักครั้ง
แทบทุกคนต้องได้สัมผัสเมื่อผ่านไปกรุงเวียนนา ลักษณะคือน้ำเนื้อสัตว์มาทุบให้แบน ๆ ชุบเกล็ดแป้งขนมปังแล้วลงทอด ขึ้นอยู่กับการเลือกสั่งว่าใช้เนื้ออะไร เช่น เนื้อลูกวัว, เนื้อวัว, เนื้อไก่งวง, เนื้อแกะ, เนื้อกวางเรนเดียร์ หรือเนื้อหมู เวลาเสิร์ฟมาคู่กับเลม่อนฝานซีก สลัดมันฝรั่ง เนย และพาสลีย์ ให้พลังงานสำหรับคนเมืองหนาวได้ดีมาก ๆ
เป็นขนมเค้กที่มีส่วนผสมหลักมาจกแอปเปิล จริง ๆ แล้วบางคนอาจบอกว่าเหมือนแพนเค้กราดด้วยซอสแอปเปิลก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก ขณะที่ตัวแป้งจะเป็นแผ่นบางถูกเรียกว่า Apple Strudel ด้านในม้วนไส้แอปเปิลเป็นชิ้นเมื่อกัดเข้าไปจะพบกับรสชาติแสนอร่อย
เค้กช็อกโกแลตชื่อดังของกรุงเวียนนา แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ เนื้อสปอนจ์เค้ก รสชาติไม่หวานมาก ส่วนที่ 2 เป็นการสอดไส้แยมแอปริคอตบาง ๆ และส่วนที่ 3 คือการเคลือบมิลค์ช็อกโกแลตจนได้ออกมาเป็นขนมเค้กแสนอร่อยนั่นเอง
เมื่อมาถึงที่ทั้งทีจะไม่ซื้อไวน์รสชาติดีกลับไปฝากก็ดูกะไรอยู่ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์องุ่นสุด ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นอันดับต้น ๆ ของโลก แนะนำว่าถ้ายังเลือกไม่ถูกให้หยิบ ไวน์องุ่นขาว Riesling เป็นไวน์รสแอปเปิล รับรองรสชาติโดนใจชัวร์ แถมได้ทานคู่กับซีฟู๊ดยิ่งอร่อยอย่าบอกใครเลย
เมื่อมีไวน์แล้วจะขาดเครื่องแก้วสวย ๆ ไปได้อย่างไร จุดเด่นของเครื่องแก้วที่นี่คือการออกแบบแสนน่าสนใจบวกกับคุณภาพของตัวแก้วที่ทำเอาหลายคนติดใจมาก แนะนำอีกนิดคือหากซื้อเครื่องแก้วอย่าลืมแพ็คมาอย่างดีด้วยล่ะ
คนที่นี่เรียกว่า โมสาร์ทคูเกิล หากใครแวะไปซัลส์บวร์กต้องซื้อกลับมาทุกราย ของทานเล่นชนิดนี้มีอายุยาวนานกว่า 120 ปี ใครไม่ซื้อกลับมาลองทานถือว่าพลาดสุด ๆ ไปเลย บอกได้คำเดียวว่าเสียใจสุด ๆ กับการได้มีโอกาสทานหนึ่งในช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลก
ใครว่าแยมยี่ห้อนี้เหมือนกับแยมทั่วไปคุณคิดผิดแล้ว จุดเด่นคือเรื่องรสชาติแบบเปรี้ยวอมหวานจนใคร ๆ ก็ติดใจ มีหลายรสชาติให้เลือกทำจากผลไม้และผักที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานมาอย่างดี ขั้นตอนการผลิตใส่ใจในรายละเอียดมาก ๆ และของอีกอย่างที่ควรซื้อจากแบรนด์นี้นั่นคือผักดอง อร่อยกลมกล่อมมากเช่นกัน ใครยังไม่เคยลองขอบอกว่าต้องติดใจแน่ ๆ
ก็รู้ทั้งรู้ว่านี่เป็นเค้กประจำชาติของออสเตรีย แม้จะเคยทานกันมาแล้วระหว่างเดินทาง ทัวร์ออสเตรีย แต่ไหน ๆ การได้สัมผัสกับรสชาติต้นตำรักทั้งทีจะไม่ซื้อกลับมาฝากคนอื่นเลยคงใจร้ายน่าดู แถมที่นี่เขาเข้าใจคนที่อยากซื้อเค้กดังกล่าวกลับไปฝากคนทางบ้านด้วยการมีบรรจุภัณฑ์สวย ๆ พร้อมมอบให้เป็นของขวัญอย่างดี ส่วนเรื่องรสชาติคงไม่ต้องพูดมากเอาเป็นว่าต้นตำรับแท้ ๆ ยังไงก็อร่อยชัวร์
เชื่อว่าข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศนี้คงทำให้หลาย ๆ คนอยากจะมองหา ทัวร์ออสเตรีย แล้วบินไปซะวันนี้พรุ่งนี้เลยแน่ ๆ อย่างที่บอกประเทศนี้มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง แม้จากเมืองไทยจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางยาวนานหน่อยแต่ขอบอกว่าคุ้มค่าสุด ๆ ใครเคยไปทัวร์ยุโรปที่อื่น ๆ แต่ยังไม่เคยมาสัมผัสดินแดนแห่งนี้ลองซื้อ ทัวร์ออสเตรีย สักทริปแล้วมาเจอกับบรรยากาศสุดคลาสสิก อาหารแสนอร่อย ธรรมชาติสะดุดตา และงานศิลปะแสนวิจิตร ออสเตรียจะทำให้ทุกคนหลงรักประเทศเล็ก ๆ กลางแผ่นดินยุโรปนี้ไม่ยาก